Toxic Town ซีรีส์ดราม่าที่ออกฉายทาง ดูหนัง Netflix ในตอนนี้ ฝุ่นพิษในอากาศทำให้เด็กๆ เกิดมาโดยสูญเสียแขนขาและร่างกายอื่นๆ ที่ผิดปกติ เรื่องราวที่น่าตกใจนี้มาจากเหตุการณ์จริงที่ผู้คนในเมืองคอร์บี้ของอังกฤษสูดฝุ่นพิษเข้าไป ซึ่งต่อมามีการเชื่อมโยงระหว่างความผิดปกติแต่กำเนิดในกลุ่มเด็ก
คำตัดสินในปี 2009 ต่อคอร์บี้ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลแพ่งในอังกฤษเชื่อมโยงระหว่างความผิดปกติแต่กำเนิดกับการจัดการขยะพิษในอากาศอย่างไม่ระมัดระวัง คดีสำคัญนี้ซึ่งก่อนหน้านี้เรียกว่า “เอริน บร็อคโควิชแห่งอังกฤษ” เกิดขึ้นได้จากบรรดาแม่ที่เรียกร้องความยุติธรรมจากผู้นำของคอร์บี้
เรื่องราวของพวกเธอกลายเป็นเรื่องราวที่น่าสะเทือนขวัญในซีรีส์ของ Netflix ตลอดทั้งสี่ตอน เราจะติดตามแม่ๆ ที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันภายใต้ฝุ่นสีส้ม และต้องมาพบกันในโรงพยาบาลในขณะที่ลูกๆ เข้าออกห้องผ่าตัดและพบแพทย์หลังจากที่พวกเธอคลอดออกมา คุณแม่ตัวจริงที่ประสบกับเหตุการณ์นี้และต่อมาก็เป็นส่วนหนึ่งของคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่ให้คำปรึกษาในซีรีส์
โจดี้ วิทเทเกอร์ รับบทเป็นซูซาน และโทบี้ อีเดน รับบทเป็นคอนเนอร์ใน Toxic Town ขอบคุณ Netflix
ความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มเด็กพิการแต่กำเนิดกับขยะพิษ
ในซีรีส์เรื่องนี้ โจดี้ วิทเทเกอร์ รับบทเป็นซูซาน แมคอินไทร์ ซึ่งเริ่มรู้สึกสงสัยหลังจากที่เธอให้กำเนิดทารกที่มีมือพิการ และถูกส่งไปอยู่ห้องโรงพยาบาลร่วมกับแม่อีกคนที่มีทารกพิการแต่กำเนิดเช่นกัน จากนั้น นักข่าวโทรมาหาเธอจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เป็นเรื่องจริงที่นักข่าวโทรหาแมคอินไทร์เมื่อลูกชายของเธออายุได้ 18 เดือน และได้แจ้งข่าวในบทความของ Sunday Times เมื่อปี 1999 ว่าเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีแขนขาพิการ เช่น นิ้วขาด อาศัยอยู่ใกล้กับเครือข่ายของสถานที่ฝังกลบขยะพิษที่เคยเกี่ยวข้องกับโรงงาน British Steel ในอดีต นักข่าว Graham Hind ได้รับข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับปัญหาการฆ่าเชื้อบริเวณโรงงานเหล็กเก่าใน Corby และกรณีเด็กหลายรายที่เกิดมาพร้อมกับข้อบกพร่องแต่กำเนิดจากแม่ที่อาศัยหรือทำงานใกล้กับสถานที่ดังกล่าว
Hind และ Stephen Bevan ผู้เขียนร่วมของเขาได้รับข้อมูลรายงานจากผู้ตรวจสอบท้องถิ่น ซึ่งเปิดเผยว่าบริเวณแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่เหมืองหิน มีปริมาณสารหนู สังกะสี โบรอน และนิกเกิลเกินระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมมาก แม้ว่าบริเวณดังกล่าวจะได้รับการทำความสะอาดแล้วก็ตาม กุมารแพทย์ John Scott ผู้ร่วมให้ข้อมูลในการศึกษาวิจัยที่เชื่อมโยงระหว่างข้อบกพร่องแต่กำเนิดและหลุมฝังกลบขยะ เรียกกลุ่มที่ Corby ว่า “เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติ”
Bevan บอกกับนิตยสาร TIME ว่าแม่ๆ สงสัยว่าพวกเธอไม่ใช่คนเดียวที่มีลูกที่เกิดมาพร้อมกับข้อบกพร่องแต่กำเนิด และพวกเธอก็คิดถูก ทนายความ Des Collins ซึ่งเป็นคนพื้นเมือง Corby และเป็นตัวแทนของครอบครัวในคดีนี้ อ่านบทความของ Sunday Times และตัดสินใจหาแม่คนอื่นๆ ที่อาจเต็มใจเข้าร่วมการฟ้องร้อง บทความดังกล่าวได้เปิดเผยกรณีความผิดปกติของแขนขา 4 กรณี และมีครอบครัว 19 ครอบครัวที่ลงนามในคดีนี้
เบแวนกล่าวว่า “เรื่องราวของเราเป็นเหมือนประกายไฟที่จุดไฟขึ้นมา คนธรรมดาๆ เหล่านี้ต้องตกเป็นเหยื่อและต้องจ่ายราคาสำหรับการบริหารจัดการที่ผิดพลาด นี่คือหนึ่งในหน้าที่ของสื่ออิสระ: เพื่อปกป้องคนที่ไม่มีเสียง”