Windows 10 รับสายเรียกเข้า-โทรออกจากสมาร์ทโฟน Android ได้แล้ว

จากที่มีคนไปขุดเจอฟีเจอร์นี้ในแอพ Your Phone เมื่อเดือนที่แล้ว วันนี้แอพ Your Phone ของ Windows 10 สามารถรับสายโทรเข้า-กดโทรออกจากสมาร์ทโฟน Android มาคุยบนพีซีได้แล้ว

ฟีเจอร์นี้มีชื่อตรงตัวว่า Calls มีฟีเจอร์ด้านการโทรศัพท์อย่างที่ควรจะมี ทั้งรับสายเข้า-โทรออก, ปฏิเสธการรับสายและส่ง SMS ไปยังปลายทาง, ดูประวัติการโทรศัพท์จากมือถือ และย้ายสายที่กำลังคุยอยู่บนมือถือไปยังบนพีซี (หรือกลับกัน)

ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องใช้กับมือถือ Android 7.0 ขึ้นไป และตัว Windows 10 ต้องเป็น 19H1 (v1903 ตัวเสถียรในปัจจุบันที่ออกเมื่อเดือนพฤษภาคม) มีเลข Build เป็น 18362.356 ขึ้นไป โดยไมโครซอฟท์จะทยอยปล่อยอัพเดตนี้ให้กับผู้ใช้ที่เป็นสมาชิก Windows Insider ก่อน

No Description

Microsoft Edge เตรียมเลิกสนับสนุน Flash

เมื่อปี ค.ศ. 2017 ทาง Adobe ได้เคยประกาศยุติการสนับสนุน และพัฒนา Flash อย่างเป็นทางการ โดย Adobe จะยังอัปเดทให้ไปจนถึงสิ้นปี ค.ศ. 2020 ล่าสุดทาง Microsoft ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า เบราว์เวอร์ Edge จะดำเนินการตามแผนของ Adobe ด้วย

โดยเมื่อถึงสิ้นปี ค.ศ. 2020 ผู้ใช้งาน Microsoft Edge และ Internet Explorer จะไม่สามารถเล่น Flash ได้อีกต่อไป ทั้งนี้ Microsoft กำลังพัฒนา Edge เวอร์ชันใหม่ที่สร้างด้วย Chromium ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ทาง Microsoft จะมีแผนการยกเลิก Flash ตามนโยบายของ Google ที่ประกาศเลิกสนับสนุนไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ใครที่ยังต้องการใช้ Flash อยู่ Microsoft Edge เวอร์ชันปัจจุบัน และ Internet Explorer 11 จะยังสามารถใช้งาน Adobe Flash ได้เหมือนเดิมต่อไป ส่วนคำถามที่ว่า ไม่ใช้ Flash แล้วจะใช้อะไร? ทาง Adobe เองก็ได้มีโปรแกรมใหม่ที่ชื่อว่า Animate เอาไว้ให้ใช้งานแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Image result for Microsoft Edge เตรียมเลิกสนับสนุน Flash

 

 

 

ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Office 365 : ถอดคำพูดเป็นข้อความบน Word ได้

หากท่านต้องใช้เวลานานในการต้องถอดบทสนทนาหรือคำพูดจากบทสัมภาษณ์มาเป็นข้อความตัวอักษร ล่าสุด Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่จะช่วยถอดข้อความจากคำพูดที่บันทึกไว้ได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังสามารถแยกคำพูดของแต่ละคนออกจากกันได้ด้วย

Microsoft

ฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวรวมอยู่ใน Word ซึ่งทาง Microsoft ได้เพิ่มความปลอดภัยให้กับการจัดเก็บไฟล์เสียงบน OneDrive และเพิ่มประสิทธิภาพจาก Azure Speech Service โดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดไฟล์เสียง แล้ว Word ก็จะดำเนินการแสดงผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบตัวอักษรบนแถบด้านข้าง ซึ่งผู้ใช้สามารถนำข้อความดังกล่าวมาแก้ไขในเอกสารได้อย่างรวดเร็ว

บทความในรูปแบบตัวอักษรที่ถูกถอดออกมาจากบทสนทนานั้น จะได้รับการแยกออกตามผู้พูดและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลื่อนดู, ค้นหา และตรวจสอบคำพูดที่สมบูรณ์ที่สุดได้อย่างง่ายดาย

Microsoft จะเพิ่มฟีเจอร์แปลไฟล์เสียงให้กับ Word ที่ใช้งานบนเว็บไซต์ ในช่วงต้นปี 2020 และจะเพิ่มให้กับแอป Word สำหรับเครื่องเดสก์ท็อปและสมาร์ตโฟนในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ต่อไป

Microsoft ประกาศชื่ออัปเดทของ Windows 10

Microsoft ประกาศชื่ออัปเดทของ Windows 10 รหัส 19H2 คือ Windows 10 November 2019 Update 

หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับอัปเดทใหม่ของ Windows 10 รุ่นใหม่ที่มีรหัส 19H2 ซึ่งมีฟีเจอร์เพิ่มเติมแต่ไม่ได้เยอะ เน้นเรื่องความเสถียรมากขึ้น

โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อก็สอดคล้องกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้คือ Windows 10 May 2019 Update (เวอร์ชั่น 19H2) โดยเวอร์ชั่นใหม่จะมีชื่อ Windows 10 November 2019 Update ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเลข Build 18363 ขยับไปเล็กน้อย โดยตอนนี้ผู้ทดลองในกลุ่ม Windows Insider เริ่มได้ทดลองกันไปแล้ว ทำให้กำหนดการปล่อยอัปเดท จะอยู่ในเดือน พฤศจิกายน 2019

สำหรับคนที่ต้องการลองเล่นฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 10 ก็ต้องรอในเวอร์ชั่น 20H2 ซึ่งจปล่อยในปีหน้า

Image result for ประกาศชื่อ อัพเดทของ Windows 10

Windows 10X ระบบปฏิบัติการใหม่เพื่ออุปกรณ์ 2 จอ

ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Microsoft ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัว Surface Neo ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของโลกและของ Microsoft ที่มี 2 หน้าจอ ไม่มีคีย์บอร์ดแบบแล็ปท็อปทั่วไป แน่นอนว่าบริษัทเน้นจุดขายใหม่ที่ 2 หน้าจอ โดยมี Windows 10X เวอร์ชันใหม่เป็นตัวหนุนอยู่เบื้องหลัง

นอกจาก Surface Neo ของ Microsoft ที่มาพร้อมกับ Windows 10X แล้ว ผู้ผลิตแล็ปท็อปรายอื่นอย่าง Dell, Lenovo, ASUS หรือ HP ต่างก็เตรียมอุปกรณ์แบบ 2 หน้าจอที่จะมาพร้อมกับ Windows 10X เช่นเดียวกัน คาดว่าบริษัทต่าง ๆ อาจเปิดตัวอุปกรณ์ 2 หน้าจอในช่วงปี 2020 อย่าง ASUS ก็เคยเผยโพรเจกต์ Precog หรือ Lenovo ก็เคยบอกว่า Yoga รุ่นใหม่จะมีสองหน้าจอ หรือแม้แต่ Dell ก็กำลังออกแบบ PC ที่มี 2 หน้าจอเช่นเดียวกัน

Image result for Windows 10X

Microsoft อธิบายว่า Windows 10X มีการปรับปรุง แยกส่วนของระบบทำให้จัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างเช่น ระบบ subsystem สำหรับแอป Win32 ซึ่งปกติจะทำงานอยู่ตลอดเวลาบน Windows 10 แต่มันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว แอปดังกล่าวจะทำงานเมื่อถูกเรียกใช้งานบน Windows 10X เท่านั้น

ด้านการดีไซน์ Microsoft ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่าง Start ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของ Windows ถูกเปลี่ยนใหม่ใน Windows 8 แต่ดูเหมือนจะไม่รุ่งนัก จนบริษัทต้องกลับมาใช้ดีไซน์แบบเก่า แต่สำหรับบน Windows 10X นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อระบบการสั่งการด้วยนิ้วมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่การจัดวางไอคอนแอปต่าง ๆ ดูไม่วุ่นวาย และมีการใช้งานหน้าจอแสดงผลทั้ง 2 ส่วนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ Engadget รายงานว่า Windows 10X ยังถูกออกแบบมาให้รองรับอุปกรณ์หลายขนาดหน้าจอ ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้ใช้งานที่จะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

Related image

Microsoft ประกาศ มีผู้ใช้ Windows 10 ในอุปกรณ์ว่า 900 ล้านชิ้น

เมื่อช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา Microsoft ประกาศตั้งเป้าว่า Windows 10 จะต้องถูกใช้บนอุปกรณ์ 1,000 ล้านชิ้น แต่ก็ผิดคาดเพราะทำได้แค่ 600 ล้านชิ้นเท่านั้น 

แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Microsoft ได้เข้าใกล้ยอดที่หวังไว้แล้ว โดยนาย Yusuf Mehdi ตำแหน่ง Corporate Vice President Modern Life, Search & Devices Group ของ Microsoft  ออกมาประกาศผ่าน Twitter ว่ามี Windows 10 อยู่ในอุปกรณ์แล้วกว่า 900 ล้านชิ้น​​​​​​ ทั้งบนคอมพิวเตอร์ PC, แว่น HoloLens, เครื่องเล่น Console Xbox และอุปกรณ์ Surface Hub และบอกด้วยว่าปีที่ผ่านมามียอดใช้ Windows 10 เพิ่มขึ้นมากที่สุด

ตัวเลขของ Windows 10 ที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับที่ทาง Microsoft ประกาศว่าจะหยุดอัปเดตด้านความปลอดภัยให้กับ Windows 7 ในเดือนมกราคม 2020 ทำให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ย้ายไปใช้ Windows 10 และถ้ายังเติบโตเรื่อยๆ แบบนี้ ในช่วงต้นปีหน้า ก็น่าจะมียอดถึง 1,000 ล้านชิ้นตามที่เคยตั้งเป้าไว้

Image result for Microsoft ประกาศ มีผู้ใช้ Windows 10 ในอุปกรณ์ว่า 900 ล้านชิ้น

Review – HP 15s โน้ตบุ๊ค Core i Gen 10 + RAM 4/8GB + SSD 256/512GB + Windows

Review – HP 15s โน้ตบุ๊ค Core i Gen 10 + RAM 4/8GB + SSD 256/512GB + Windows  HP พร้อมขายก่อนใคร ด้วยการนำเสนอโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Inel Core i Gen 10 อย่าง HP 15s โน้ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ดีไซน์บางเบาออกแบบมาใหม่ ดูสวยงามไม่แพ้รุ่นพี่ตัว Pavilion และเน้นในเรื่องของความคุ้มค่า ราคาไม่แพง เป็นหลัก และที่สำคัญมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 1.69 กิโลกรัม และบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เหมาะกับสายการทำงานหรือบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟแบบชิคๆ คูลๆ ได้ความฟรูหราโดดเด่นไม่น้อยหน้าใครในราคาเบาๆ ด้วย

โดย HP 15s  ปี 2019 รุ่นนี้มีความโดดเด่นสุดๆ เพราะเป็นรุ่นแรกของ HP ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 (Ice Lake) ที่ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ที่เล็กลงและดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ซึ่งในตลาดตอนนี้มีให้เลือกทั้ง Core i3-1005G1 / Core i5-1035G1 พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวใหม่ ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีด้วย RAM 4GB / 8GB และ SSD ความจุ 256GB + Optane 16GB / SSD 512GB อีกด้วย สนนราคาเพียง 14,490 / 17,990 บาท ได้ Windows 10 พร้อมประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ในชื่อรุ่นเต็มๆ ของ HP 15s จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ รุ่นที่ได้รับมารีวิวเป็น HP 15s-fq1012tu มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับกลางอย่าง Intel Core i5-1035G1 (Ice Lake) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.0 – 3.6GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 15Wattโดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics G1 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนใส่ฮาร์ดดิสก์ให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB พร้อม Ram ขนาด 8GB DDR4 ราคา 17,990 บาท

และอีกรุ่นคือ HP 15s-fq1001tu มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลรุ่นเล็กอย่าง Intel Core i3-1005G1 (Ice Lake) ทำงานแบบ 2 Core / 4 Thread ความเร็ว 1.2 – 3.4GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 15Watt โดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics G1 ส่วนใส่ฮาร์ดดิสก์ให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 256GB + Optane 16GB พร้อม Ram ขนาด 4GB DDR4 ในราคาที่ถูกกว่าที่ 14,490 บาท

ได้หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้าน พาเนล TN คุณภาพดี ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว ทางด้านพอร์ตที่ติดตั้งมีมาให้จะใช้ถือว่าครบครันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม, LAN และรูหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ ซึ่งแน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac (2×2) กับ Bluetooth 4.2 และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.69 กิโลกรัม พร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ HP ที่ทุกคนไว้ใจได้

  • i3-1005G1 / UHD G1/ RAM 4GB / SSD 256GB + Optane 16GB/ Windows 10 ราคา 14,490 บาท
  • i5-1035G1 / UHD G1/ RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 17,990 บาท

วิธีปิด Windows Update อัตโนมัติบน Windows 10

พักหลังมานี้หากใครที่ใช้ Windows 10 อยู่มักจะเจอข้อความ Windows Update เด้งขึ้นมาบ่อยเสียเหลือเกิน ซึ่งปกติการตั้งค่าเบื้องต้นของตัว Windows จะเปิดให้อัปเดตแบบอัตโนมัติอยู่แล้ว ทำให้บางครั้งที่เราทำงานอยู่ก็โดนดูดเน็ตบ้าง เครื่องกระตุกบ้าง หรืออย่างข่าวล่าสุดเผลอกดอัพเดทแล้วไปเจอบั๊ก Cortana กิน CPU เป็น 40% น่ารำคาญอย่างสุดๆ.. วันนี้เราก็เลยมาแบ่งปันวิธีปิดการแจ้งเตือน Windows Update แบบง่ายๆ กันครับ

โดยในบทความนี้เองทีมงานจะมาแนะนำวิธีการปิด Windows Update อัตโนมัติง่ายๆ สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มีอยู่ 2 วิธี คือการปิดแจ้งเตือนอัพเดทชั่วคราว และการปิดแบบถาวร ดังนี้..

วิธีปิดแบบชั่วคราว (BUILD 1903)

กดปุ่ม Start ด้านล่างซ้ายแล้วไปที่รูปเฟือง Setting

เลื่อนลงมาด้านล่างจนเจอเมนู Update & Security ก็ให้กดเลือกซะ

กดไปที่ Pause updates for 7 days เพื่อหยุดการอัปเดตเป็นระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเราสามารถกดซ้ำเพื่อหยุดได้สูงสุด 31 วัน เสร็จแล้วก็ปิดหน้าต่างได้เลย

 

วิธีปิดแบบถาวร หรือกดอัปเดตเองเท่านั้น

กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิด Run จากนั้นพิมพ์ว่า services.msc

เมื่อมีหน้าต่าง Services เปิดขึ้นมา ให้เลื่อนลงมาจนเจอกับ Windows Update จากนั้นคลิกขวาแล้วเลือก Properties ตามภาพ

ในแทบ General หัวข้อ Startup type ให้กดเลือก Disabled เพื่อปิดการอัปเดตถาวร หรือ เลือก Manual เพื่ออัปเดตแบบกดเองเท่านั้น จากนั้นกด OK แล้วรีสตาร์ทเครื่องหนึ่งรอบเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ Windows 10 แท้อยู่ แนะนำให้เลือกหยุดอัปเดตชั่วคราว หรือกด Manual อัปเดต จะดีกว่า และไม่ควรปิดการแจ้งเตือนแบบถาวร เพราะตัว Windows 10 จะมีฟีเจอร์สดใหม่ ปลอดภัย มาอัพเดทให้อยู่เสมอ ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการโดนไวรัส รวมถึงแก้บั๊กต่างๆ ของเวอร์ชันก่อนด้วย (แต่อาจจะเจอบั๊กใหม่แทน.. อย่างเช่นบั๊ก Cortana เมื่อไม่นานนี้)

Surface 7 แทบเล็ตชิป Snapdragon 8cx ราคาประหยัด

Microsoft เตรียมจัดงานเปิดตัวแทบเล็ต / โน้ตบุ๊ค Surface และอุปกรณ์อื่นๆ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2019 ณ นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งในงานดังกล่าวเราอาจจะได้เห็นโน้ตบุ๊คภาคต่อทั้ง Surface Pro 7Surface Laptop 3 และยังมีข่าวหลุดออกมาอีกว่า Microsoft จะเปิดตัวแทบเล็ตราคาประหยัดอย่าง Surface 7 อีกด้วย

ข่าวลือของ Surface 7 นี้ มีต้นตอมาจากเว็บไซท์ Frandroid ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทางเว็บดังกล่าวบอกว่าแทบเล็ตรุ่นนี้ใช้โค้ดเนมว่า Campus แถมยังมีรูปภาพของ Surface 7 ด้วย แต่ไม่สามารถเอามาโพสท์ให้ดูได้

ยังมีข้อมูลออกมาอีกว่า Surface 7 จะมีดีไซน์ใหม่ โดยลดขนาดของขอบจอด้านซ้าย-ขวา (แนวนอน) ลงไปจนบางเฉียบ แต่ขอบจอบน-ล่างจะหนากว่าเพราะต้องวางกล้องเซลฟี่เอาไว้ด้านบน ส่วนขอบจอด้านล่างจะต้องเว้นที่เอาไว้สำหรับติดคีย์บอร์ดแบบแม่เหล็กนั่นเอง

สำหรับสเปคของ Surface 7 คาดว่าจะใช้ชิป Snapdragon 8cx ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 4G LTE ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังตัดพอร์ท USB-A และ MiniDisplayPort ทิ้งไป แล้วหันมาใช้พอร์ท USB-C แทน ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่บางลงไปอีก

 

CEO เผยอนาคตของ Microsoft

นอกจากสินค้าตระกูลแล็ปท็อปอย่าง Surface Pro และ Surface Laptop แล้ว Microsoft ยังเปิดตัวอุปกรณ์ไลน์ใหม่อย่าง Surface Neo และ Surface Duo แต่อุปกรณ์ที่สร้างเสียงฮือฮาได้อย่างดีเยี่ยมคงไม่พ้น Surface Duo ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android ของ Google

หลังจาก Microsoft ได้ถอนตัวจากตลาดสมาร์ตโฟนเนื่องจากความล้มเหลวของ Windows Mobile, Windows Phone จนต้องสละเรืออย่าง Nokia (ปัจจุบันใช้ Android เช่นกัน) ทั่วโลกต่างจับตามองทิศทางของ Microsoft ต่อตลาดสมาร์ตโฟนภายใต้การคุมบังเหียนของ CEO, Satya Nadella และคำตอบของ Microsoft คือ “ระบบปฏิบัติการไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์การใช้งานของทุกคน”

ในช่วงการเปิดตัว Microsoft ระบุชัดเจนว่า Surface Duo มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android และมี Play Store ติดตั้งมาให้เรียบร้อย นั่นหมายความว่า Surface Duo มี Google services และรองรับการอัปเดตระบบความปลอดภัยต่าง ๆ จาก Google โดยตรง

surface neo duo

“เรารู้สึกตื่นเต้นและขอต้อนรับ Microsoft เข้าสู่ระบบนิเวศของ Android เรายินดีที่จะทำงานร่วมกันเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานของเราทุกคน” – ตัวแทนของ Google

หลาย ๆ คนอาจมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่ Microsoft ยอมใช้ระบบปฏิบัติการของคู่แข่งอย่าง Android ซึ่งตรงนี้ Satya Nadella ให้สัมภาษณ์กับ Wired ว่า “ระบบปฏิบัติการไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเราอีกต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องแอปหรืออะไรก็ตาม ผู้ใช้งานที่ใช้งาน Neo หรือ Duo จะทำอะไรได้ไกลกว่าการแบ่งว่านี่คือแอปของ Android หรือแอปของ Windows แต่มันคือ Microsoft ทั้งหมด”

หากมองย้อนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า Microsot ภายใต้ CEO, Satya Nadella ไม่ได้มองว่าระบบปฏิบัติการคือจุดสูงสุดของบริษัท เพราะตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นอยู่บน Cloud แทน แต่บริษัทก็ไม่เคยทิ้ง Windows บริษัทเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือเรื่อง บริการสำหรับลูกค้านั่นเอง