แนะนำ 6 โปรแกรมดี โปรแกรมฟรี ที่ควรติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนจำได้ว่ามีบทความที่ชื่อ “เตือน 6 โปรแกรมอันตราย ที่ไม่ควรมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์” ออกมาเตือนผู้ใช้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นบทความที่มีประโยชน์อย่างมากครับ ผู้เขียนก็เลยคิดว่าน่าจะลองหา โปรแกรมดี และเป็นโปรแกรมฟรีสัก 6 โปรแกรมขึ้นมา เพื่อแนะนำให้กับคุณผู้อ่านที่มักจะประสบปัญหากับโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ ไวรัส มัลแวร์ รวมไปถึงที่อันตรายสุดในตอนนี้ก็คือ Ransomware หรือโปรแกรมเรียกค่าไถ่ ซึ่งโปรแกรมทั้ง 6 ที่ผู้เขียนแนะนำมานี้ ก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองก็ใช้งานอยู่เป็นประจำครับ และเป็นโปรแกรมที่ผู้เขียนมักจะติดตั้งทันทีที่ลง Windows เสร็จเรียบร้อย ส่วน 6 โปรแกรมดังกล่าวจะมีอะไรบ้างก็ไปติดตามกันได้เลยครับ

[1] Sophos Home for PC เพิ่มความปลอดภัยจากไวรัส และปลอดภัยจากการท่องเว็บ
Sophos-Home

สิ่งที่ดีที่สุดหลังจากติดตั้ง Windows ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันไหนก็ตามโปรแกรมที่ควรจะติดตั้งทันทีก็คือโปรแกรมป้องกันไวรัสครับ แม้ว่าตัว Windows รุ่นใหม่ ๆ อย่างเช่น 8 และ 10 จะมาพร้อมกับโปรแกรมป้องกันไวรัสในตัวแล้วก็ตาม แต่ผู้เขียนคิดว่าฟังก์ชันการทำงานที่มาพร้อม Windows นั้นก็ยังมีไม่มากพอสำหรับการใช้งานครับ (ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนด้วย) อย่างผู้เขียนเองจำเป็นต้องเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อหาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาเขียนลงคอลัมน์ใน QuickPC ดังนั้นการตระเวนไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยอาศัยเพียงแค่ Windows Defender ก็อาจจะพลาดท่าเสียทีได้ ก็เลยจะเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมที่มีความสามารถในการตรวจจับไวรัส และมีการป้องกันในการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยในตัว ซึ่งโปรแกรมป้องกันไวรัสในลักษณะนี้ก็มีหลายโปรแกรมครับ แต่ตอนนี้ผู้เขียนเองหลงรัก Sophos Home for PC มากเป็นพิเศษ คือนอกจากจะฟรีแล้ว โปรแกรมนี้ยังมีส่วนควบคุมการทำงานผ่านทางเว็บบราวเซอร์ได้อีกด้วย ในกรณีที่เรามีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง เราก็สามารถติดตามการทำงานของ Sophos ที่อยู่ในเครื่องอื่น ๆ ได้จากส่วนที่เรียกว่า Home Dashboard ครับ

[2] Malwarebyte Anti-Ransomware (Beta) ป้องกันซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่
Malwarebyte-Anti-Ransomware

Malwarebyte Anti-Ransomware (Beta) นี่เป็นโปรแกรมป้องกัน Ransomware ที่น่าสนใจมากในเวลานี้ครับแม้ว่าจะยังไม่ออกเวอร์ชันจริงออกมาก็ตาม และไม่แน่ในเหมือนกันว่าออกเวอร์ชันจริงแล้วยังคงเป็นเวอร์ชันฟรีให้เราใช้ต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าใครไม่อยากรอลุ้นว่าเมื่อไหร่จะออกเวอร์ชันจริง ก็สามารถเลือกใช้อีกโปรแกรมหนึ่งก็ได้ครับ นั่นก็คือ Bitdefender AntiRansomware (BDAntiRansomware) ซึ่งเป็นฟรีแวร์เช่นกัน และก็ออกเวอร์ชัน 1.0 มาแล้วไม่ได้เป็นแค่ Beta เหมือน Malwarebyte ส่วนคุณผู้อ่านจะเลือกติดตั้งตัวใด เราก็คิดว่าดีทั้งนั้นครับเพราะว่ากันไว้ดีกว่าแก้

[3] Bitdefender Adware Removal Tools for PC กำจัดทูลบาร์ที่มาพร้อมโฆษณาแฝง
Bitdefender-Adware

นี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจาก Bitdefender ครับ โปรแกรมนี้จะช่วยในการกำจัดพวก Adware ต่าง ที่ซ่อนมากับโปรแกรมที่เราติดตั้งไปตามปกติ หรือเกิดจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วเราไปตอบ OK บนหน้าจอที่ไม่ทันได้อ่าน ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ว่ากำลังทำงานอยู่เพลิน ๆ แล้วขึ้น OK กับ Cancel มาให้เรากด เราก็กด OK ซิครับ ซึ่งผู้เขีนนเองก็เป็นบ่อย แม้ว่าจะพยายามระวังตัวแล้วก็ตาม โปรแกรมพวกนี้บางครั้งก็ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่ว่ามันสร้างความรำคาญเสียมากกว่า แต่ก็มีบางโปรแกรมเหมือนกันที่ไม่ปลอดภัย และนอกจากนี้แล้วก็ยังมีโปรแกรมประเภท Hijack Browser คือพวกที่ชอบเปลี่ยนเว็บไซต์หลักและเครื่องมือในการค้นหาของเว็บบราวเซอร์ที่เราใช้งานอยู่ โปรแกรม Bitdefender Adware Removal Tools for PC นี้ก็จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ครับ

[4] Geek Uninstaller ถอดถอนโปรแกรมได้อย่างล้ำลึก
Geek-Uninstaller

Geek Uninstaller เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ใช้สำหรับถอดถอนโปรแกรมที่ไม่ต้อบการออกจาก Windows ที่ดีที่สุดโปรแกรมหนึ่งครับ ที่ว่าดีนั้นไม่ใช่เพราะเป็นฟรีแวร์ แต่ว่าเป็นเพราะประสิทธิภาพในการจัดการกับโปรแกรมที่เราไม่ต้องการได้อย่างหมดจด โดยที่ตัว Geek Uninstaller เองก็มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด ไม่ได้มีฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ มาวุ่นวายด้วย การใช้งานก็เรียบง่ายตรงไปตรงมา ในกรณีที่ใครเจอโปรแกรมแปลก ๆ ที่มักจะแถมมากับโปรแกรมที่เราดาวน์โหลดมาใช้งาน แต่ว่า Uninstall ออกไม่ได้ด้วยวิธีการปกติ ก็สามารถใช้ Geek Uninstaller นี้จัดการได้สบาย ๆ ครับ ส่วนใครที่ต้องการความสามารถพิเศษที่สามารถตรวจจับการติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ลงในเครื่องของเราได้อย่างละเอียดก็สามารถซื้อรุ่น Pro มาใช้งานได้ครับ แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปผู้เขียนคิดว่าเวอร์ชันที่เป็นฟรีแวร์ก็ใช้งานได้เพียงพอแล้วครับ นอกจาก Geek Uninstaller แล้ว ก็ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่นี้ได้ดีเช่นกัน อาทิ Revo Uninstaller, IObit Uninstaller เป็นต้น

[5] CCleaner ทำความสะอาดวินโดวส์และแอปพลิเคชัน
CCleaner

CCleaner ยังคงเป็นหนึ่งในโปรแกรมยูทิลิตียอดนิยมที่หลาย ๆ คนใช้งานกัน เนื่องจากความสามารถในการกำจัดไฟล์ขยะของ CCleaner นั้นทำงานได้เป็นอย่างดี โปรแกรมมีการอัปเดตบ่อยมากเพื่อให้รองรับและทันกับการปรับปรุงเวอร์ชันต่าง ๆ ของซอฟต์แวร์ด้วย โปรแกรม CCleaner เองอาจจะไม่ได้มีความสามารถในการป้องกันอันตรายใด ๆ จากมัลแวร์ทั้งหลาย แต่ ความสามารถในการลบไฟล์ขยะต่าง ๆ ของแอปพลิเคชัน และการทำความสะอาดข้อมูลการใช้งานต่าง ๆ ของเว็บบราวเซอร์ที่เราใช้งานกันอยู่เป็นประจำก็สามารถช่วยลบข้อมูลส่วนตัวของเราที่อาจจะถูกนำไปใช้โดยไม่รู้ตัวได้ โดยเฉพาะถ้าพีซีของเรามีคนอื่นมาใช้งานร่วมด้วย แม้จะไม่บ่อยก็ตาม ใน CCleaner ก็มีอีกคุณสมบัติหนึ่งที่ใช้งานได้ดีนั่นก็คือความสามารถในการปิดเปิด Plugin และ Extension ของเว็บบราวเซอร์ (อยู่ในหัวข้อ Tools/Browser Plugins) ช่วยปิดเปิดการทำงานได้ตามต้องการและง่ายดาย รองรับ IE, Firefox, Google Chrome และ Opera ส่วนใครที่มีฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วต้องการจะปล่อยขาย ก่อนขายก็แนะนำให้ใช้คุณสมบัติ Drive Wiper เพื่อลบข้อมูลต่าง ๆ ในไดร์ฟของเราออกไปก่อน เพื่อป้องกันการกู้คืนข้อมูลเพราะเราเองอาจจะลืมไปว่าเคยเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในไดร์ฟเหล่านั้นด้วย เพราะการฟอร์แมตเพียงอย่างเดียาอาจจะไม่เพียงพอครับ

[6] AOMEI Backupper Standard สำคัญต้องสำรอง
AOMEI Backupper

อีกหนี่งโปรแกรมที่ผู้เขียนคิดว่าสำคัญ แต่บอกได้เลยว่าผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจมากนักก็คือเรื่องของการสำรองข้อมูล ยิ่งทุกวันนี้เรามีความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลจากพวก Ransomware การแบ็คอัปหรือการสำรองข้อมูลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าเราจะมีโปรแกรมป้องกันแล้วก็ตาม เพราะมีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะไปเจอกับพวก Ransomware ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ หรืออาจจะรอดจากการตรวจจับมาได้เนื่องจากเหตุผลอื่น ๆ ดังนั้นทางที่ดีเราจึงต้องหัดสำรองข้อมูลที่สำคัญ ๆ ไว้ให้เป็นนิสัย หนึ่งในโปรแกรมแบ็คอัปข้อมูลที่ใช้งานง่ายก็คือ AOMEI Backpper Standard และยังมีความสามารถในการแบ็คอัปที่หลากหลายมาก ตั้งแต่แบ็คอัประบบ แบ็คอัปเฉพาะไฟล์ แบ็คอัปเป็นพาร์ทิชัน รวมไปถึงการแบ็คอัปทั้งไดร์ฟก็สามารถทำได้ ส่วนการแบ็คอัปข้อมูลที่ดีเราก็ควรจะมีแหล่งที่เก็บอย่างน้อย ๆ สองชุด ชุดแรกอาจจะเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ภายในเครื่องเพื่อความสะดวกในการเรียกใช้ ส่วนอีกชุดก็อาจจะเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์แบบพกพา พอแบ็คอัปแล้วก็ถอดสายออกเก็บไดร์ฟไว้ในที่ปลอดภัย เพราะ Ransomware บางตัว เมื่อติดในเครื่องแล้วมันสามารถแพร่กระจายไปได้ทุกไดร์ฟ รวมไปถึงไดร์ฟบนเครือข่ายด้วย