ไมโครซอฟท์ปรับรอบการพัฒนา Windows 10 ภายใน

นับตั้งแต่ Windows 10 เป็นต้นมา ไมโครซอฟท์มีนโยบายออกรุ่นอัพเดตใหญ่ (feature releases) ปีละ 2 ครั้ง โดยกระบวนการพัฒนาจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมและกันยายนของทุกปี ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นที่เลขเวอร์ชัน (เช่น v1903 และ v1909)

เมื่อพัฒนาเสร็จ OS แล้ว ไมโครซอฟท์จะทดสอบต่ออีกสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยปล่อยอัพเดตมายังผู้ใช้ในวงกว้าง เช่น กรณีของ v1903 ที่ปล่อยอัพเดตในเดือนพฤษภาคม (May 2019 Update) หรือมีระยะห่างกันประมาณ 2 เดือน

ล่าสุดเว็บไซต์ ZDNet อ้างแหล่งข่าววงในไมโครซอฟท์ว่า รอบการพัฒนาของ Windows 10 กำลังจะเปลี่ยนไป โดยย้ายมาเป็นเดือนมิถุนายนและธันวาคมแทน

เหตุผลของการย้ายไม่ใช่เรื่องเทคนิค แต่เป็นเรื่องการเมืองภายในไมโครซอฟท์เอง หลังไมโครซอฟท์ปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2018 แยกส่วนฝ่าย Windows and Devices Group โดยส่วนของ Devices ไปอยู่กับฝ่าย Experiences & Devices และส่วนของแกนระบบปฏิบัติการไปอยู่กับฝ่าย Azure

ฝ่าย Azure พัฒนาระบบปฏิบัติการใช้เอง โดยเป็น Windows 10 Server เวอร์ชันพิเศษสำหรับให้บริการคลาวด์ เมื่อทีมแกนหลักของ Windows 10 ย้ายมาอยู่ด้วย จึงต้องการซิงก์เวอร์ชันของตัวแกนระบบปฏิบัติการให้เหมือนกัน แต่ทีม Azure ใช้รอบการพัฒนาที่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม ทำให้ทีม Windows ต้องปรับเวลาตาม และจะมีผลใน Windows 20H1 ที่จะปิดรอบการพัฒนาตอนสิ้นปี 2019 นี้

การปรับรอบเวลาครั้งนี้เป็นแค่รอบเวลาของการพัฒนาภายในเท่านั้น ไมโครซอฟท์จะยังปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ราวเดือนเมษายน-ตุลาคมเหมือนเดิม

หลุดข้อมูล Windows 10X ระบบปฏิบัติการใหม่ไมโครซอฟท์

ของใหม่ใน Surface Neo แท็บเล็ตจอคู่ของไมโครซอฟท์ คือ ระบบปฏิบัติการ Windows 10X เวอร์ชันพิเศษ ที่ปรับแต่งมาเพื่อแท็บเล็ตลักษณะนี้โดยเฉพาะ

แต่นอกจากภาพ/วิดีโอที่เห็นในงานแถลงข่าวแล้ว ไมโครซอฟท์ยังไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ของ Windows 10X เลย บอกเพียงว่าให้รอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเท่านั้น

เมื่อไม่กี่วันก่อน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ WalkingCat ซึ่งมีผลงานปล่อยข่าวสายไมโครซอฟท์บ่อยครั้ง ค้นพบไฟล์เอกสารของ Windows 10X บนเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ ที่คาดว่าเอาไว้ให้พาร์ทเนอร์อ่าน ทำให้เรารู้ข้อมูลเพิ่มเติมของ Windows 10X มากขึ้นอีกนิด

No Description

ประเด็นสำคัญของ Windows 10X มีดังนี้

  • Start Menu ถูกเรียกว่า Launcher แทน
  • Launcher มีช่อง Recommend ที่คอยแนะนำของ 3 อย่างในที่เดียวกัน คือ แอพ, ไฟล์, เว็บไซต์
  • ยังมี Taskbar อยู่ และเลือกคอนฟิกได้ว่าจะเรียงไอคอนตรงกลาง หรือชิดซ้าย
  • Taskbar ตั้งค่าให้ย่อขนาดลงได้
  • สร้างโฟลเดอร์โดยการลากไอคอนมาชนกัน (เหมือนกับบน Android)
  • ปลดล็อคแท็บเล็ตด้วยใบหน้า (Windows Hello) โดยไม่ต้องเลื่อนจอก่อน 1 ครั้งเหมือน Windows 10 หยิบเครื่องมาแล้วปลดล็อคได้เลย
  • มีตัวจัดการไฟล์ตัวใหม่ที่เรียกว่า Modern File Explorer ซึ่งคาดว่ามันคือ File Explorer เวอร์ชัน UWP ที่รอกันมานาน

ในเอกสารยังระบุรายชื่อแอพพื้นฐานของระบบ ได้แก่ Edge, Mail, Calendar, Word, Excel, PowerPoint, OneNote, Teams, Whiteboard, To Do, Photos, Store, File Explorer, Spotify, Netflix, Camera, Solitaire, Calculator, Alarms & Clock, Movies & TV, Office, Sticky Notes, Paint, Learning Hub, Settings, Weather, Snip & Sketch, Voice Recorder, Groove Music, People, Notepad, Feedback Hub, Media Plan, Messaging

ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สามารถเลือกพรีโหลดแอพของตัวเอง (OEM) ได้สูงสุด 4 แอพ

No Description

Task Manager ของ Windows 10 แสดงอุณหภูมิ GPU ได้

ของใหม่อีกอย่างใน Windows 10 Insider Preview Build 18963 (20H1) นอกเหนือจาก Settings รองรับการปรับความเร็วเคอร์เซอร์เมาส์ และ อัพเดต Notepad ผ่าน Store คือ Task Manager แสดงอุณหภูมิของ GPU ได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ Task Manager มีแท็บ Performance ที่สามารถดูอัตราการทำงานของฮาร์ดแวร์ชิ้นต่างๆ ในเครื่องได้ กรณีของ GPU สามารถดูอัตราการทำงาน (utilization) และปริมาณหน่วยความจำที่ใช้อยู่

ไมโครซอฟท์บอกว่าฟีเจอร์อุณหภูมิ GPU เป็นสิ่งที่ถูกเรียกร้องเข้ามานาน โดยตอนนี้ยังรองรับเฉพาะ GPU แบบการ์ดจอแยก (dedicated) และต้องใช้กับไดรเวอร์ GPU ที่เป็น WDDM เวอร์ชัน 2.4 ขึ้นไปด้วย

ฟีเจอร์นี้จะได้ใช้งานกันจริงๆ ในช่วงเดือนเมษายน/พฤษภาคมปี 2020 เมื่อ Windows 10 20H1 ออกตัวจริง

No Description

Start Menu ของ Windows 10 จะแก้ไขปลาย ต.ค. นี้

Microsoft ได้ออก Patch KB4524147 สำหรับ Windows ทุกรุ่นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องใน Internet Explorer แต่หลังจากอัปเดตแล้วลูกค้ากลับพบปัญหาเกี่ยวกับการจัดคิวงานพิมพ์ของเครื่องพิมพ์เกิดขึ้น

ต่อมาในวันที่ 4 ตุลาคม Microsoft ได้ทำการอัปเดต Patch KB4524147 แล้วมีผู้ใช้บางคนรายงานว่าพบข้อความแจ้งเตือนว่ามีข้อผิดพลาดร้ายแรง “Critical error” ที่ระบุว่า Start menu ไม่ทำงาน ทำให้ผู้ใช้บางคนแก้ไขปัญหา Start Menu ที่ไม่ทำงานโดยถอนการติดตั้งตัวอัปเดตออกไป

จากนั้นวันที่ 8 ตุลาคม Microsoft ได้ออก Cumulative Updates (ตัวอัปเดตทุกวันอังคารของเดือน) KB4517389 เพื่อแก้ไขปัญหาการจัดคิวงานพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ใช้ Windows 10 รุ่น 1903 ได้ติดตั้ง Patch KB4524147 ในวันที่ 23 กันยายน แต่ปรากฏว่าผู้ใช้บางคนยังคงมีปัญหาที่ Start Menu

ล่าสุดวิศวกรของ Microsoft ได้ออกมาโพสต์บนเว็บไซต์ Microsoft Answers โดยแจ้งว่าการแก้ไขจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งมีข้อความว่า “เรามีความตระหนักถึงปัญหานี้และประเมินความละเอียดที่จะปล่อยออกมาในช่วงปลายเดือนตุลาคม”

สรุปง่าย ๆ ว่าตอนนี้ใครที่ยังไม่ได้อัปเดต Windows 10 ก็ควรรอไปก่อนจนกว่าจะแน่ใจว่าข้อผิดพลาดได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่อัปเดตไปแล้วและพบปัญหาดังกล่าวก็ให้ถอนการอัปเดตออกไปก่อนตามที่ผู้ใช้หลายคนออกมาแนะนำ

Image result for Start Menu ของ Windows 10

รู้จัก Windows 10X ระบบปฏิบัติการสำหรับ Surface Neo

แท็บเล็ต Surface Neo เป็นอุปกรณ์ใหม่อีกตัวที่ไมโครซอฟท์นำมาโชว์คู่กับ Surface Duo

ถึงแม้อุปกรณ์ทั้งสองตัวใช้แนวคิด “จอคู่” dual-screen เหมือนกัน แต่จุดต่างคือขนาดและระบบปฏิบัติการ โดย Surface Duo เป็น Google Android เต็มรูปแบบ ส่วน Surface Neo ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันพิเศษชื่อ Windows 10X

ไมโครซอฟท์เขียนบล็อกอธิบาย Windows 10X ว่าเป็น Windows 10 เวอร์ชันปรับแต่งให้เหมาะกับแท็บเล็ตสองจอ เพราะอุปกรณ์ประเภทนี้ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้แบบใหม่ ที่ทำงานได้ 2 อย่างพร้อมกันตลอดเวลา และต้องออกแบบให้พร้อมใช้งานนอกสถานที่ (on-the-go) รวมถึงปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ดีที่สุดบนอุปกรณ์ลักษณะนี้

No Description

Windows 10X ใช้แกน (core) ตัวเดียวกับ Windows 10 ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่ไมโครซอฟท์ทำในระบบปฏิบัติการ Xbox One, HoloLens

ข้อมูลที่ไมโครซอฟท์ระบุคือ Windows 10X รองรับการรันแอพแบบ Win32 ในคอนเทนเนอร์ และใช้เทคนิคการแยกคอมโพเนนต์ของ Windows เพื่อให้รองรับอุปกรณ์และอินพุตที่หลากหลาย แต่ยังคงรักษาอายุแบตเตอรี่ได้ดี

ไมโครซอฟท์ยังให้ข้อมูลว่าผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ 4 รายคือ Asus, Dell, HP, Lenovo จะออกสินค้าแบบสองจอที่ใช้ Windows 10X ช่วงปลายปี 2020 โดยอุปกรณ์ชุดแรกจะใช้ซีพียูของอินเทลทั้งหมด

Microsoft ประกาศชื่ออัปเดทของ Windows 10

Microsoft ประกาศชื่ออัปเดทของ Windows 10 รหัส 19H2 คือ Windows 10 November 2019 Update 

หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับอัปเดทใหม่ของ Windows 10 รุ่นใหม่ที่มีรหัส 19H2 ซึ่งมีฟีเจอร์เพิ่มเติมแต่ไม่ได้เยอะ เน้นเรื่องความเสถียรมากขึ้น

โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อก็สอดคล้องกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้คือ Windows 10 May 2019 Update (เวอร์ชั่น 19H2) โดยเวอร์ชั่นใหม่จะมีชื่อ Windows 10 November 2019 Update ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเลข Build 18363 ขยับไปเล็กน้อย โดยตอนนี้ผู้ทดลองในกลุ่ม Windows Insider เริ่มได้ทดลองกันไปแล้ว ทำให้กำหนดการปล่อยอัปเดท จะอยู่ในเดือน พฤศจิกายน 2019

สำหรับคนที่ต้องการลองเล่นฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 10 ก็ต้องรอในเวอร์ชั่น 20H2 ซึ่งจปล่อยในปีหน้า

Image result for ประกาศชื่อ อัพเดทของ Windows 10

Windows 10X ระบบปฏิบัติการใหม่เพื่ออุปกรณ์ 2 จอ

ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Microsoft ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัว Surface Neo ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของโลกและของ Microsoft ที่มี 2 หน้าจอ ไม่มีคีย์บอร์ดแบบแล็ปท็อปทั่วไป แน่นอนว่าบริษัทเน้นจุดขายใหม่ที่ 2 หน้าจอ โดยมี Windows 10X เวอร์ชันใหม่เป็นตัวหนุนอยู่เบื้องหลัง

นอกจาก Surface Neo ของ Microsoft ที่มาพร้อมกับ Windows 10X แล้ว ผู้ผลิตแล็ปท็อปรายอื่นอย่าง Dell, Lenovo, ASUS หรือ HP ต่างก็เตรียมอุปกรณ์แบบ 2 หน้าจอที่จะมาพร้อมกับ Windows 10X เช่นเดียวกัน คาดว่าบริษัทต่าง ๆ อาจเปิดตัวอุปกรณ์ 2 หน้าจอในช่วงปี 2020 อย่าง ASUS ก็เคยเผยโพรเจกต์ Precog หรือ Lenovo ก็เคยบอกว่า Yoga รุ่นใหม่จะมีสองหน้าจอ หรือแม้แต่ Dell ก็กำลังออกแบบ PC ที่มี 2 หน้าจอเช่นเดียวกัน

Image result for Windows 10X

Microsoft อธิบายว่า Windows 10X มีการปรับปรุง แยกส่วนของระบบทำให้จัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างเช่น ระบบ subsystem สำหรับแอป Win32 ซึ่งปกติจะทำงานอยู่ตลอดเวลาบน Windows 10 แต่มันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว แอปดังกล่าวจะทำงานเมื่อถูกเรียกใช้งานบน Windows 10X เท่านั้น

ด้านการดีไซน์ Microsoft ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่าง Start ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของ Windows ถูกเปลี่ยนใหม่ใน Windows 8 แต่ดูเหมือนจะไม่รุ่งนัก จนบริษัทต้องกลับมาใช้ดีไซน์แบบเก่า แต่สำหรับบน Windows 10X นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อระบบการสั่งการด้วยนิ้วมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่การจัดวางไอคอนแอปต่าง ๆ ดูไม่วุ่นวาย และมีการใช้งานหน้าจอแสดงผลทั้ง 2 ส่วนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ Engadget รายงานว่า Windows 10X ยังถูกออกแบบมาให้รองรับอุปกรณ์หลายขนาดหน้าจอ ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้ใช้งานที่จะมีตัวเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

Related image

Microsoft ประกาศ มีผู้ใช้ Windows 10 ในอุปกรณ์ว่า 900 ล้านชิ้น

เมื่อช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา Microsoft ประกาศตั้งเป้าว่า Windows 10 จะต้องถูกใช้บนอุปกรณ์ 1,000 ล้านชิ้น แต่ก็ผิดคาดเพราะทำได้แค่ 600 ล้านชิ้นเท่านั้น 

แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Microsoft ได้เข้าใกล้ยอดที่หวังไว้แล้ว โดยนาย Yusuf Mehdi ตำแหน่ง Corporate Vice President Modern Life, Search & Devices Group ของ Microsoft  ออกมาประกาศผ่าน Twitter ว่ามี Windows 10 อยู่ในอุปกรณ์แล้วกว่า 900 ล้านชิ้น​​​​​​ ทั้งบนคอมพิวเตอร์ PC, แว่น HoloLens, เครื่องเล่น Console Xbox และอุปกรณ์ Surface Hub และบอกด้วยว่าปีที่ผ่านมามียอดใช้ Windows 10 เพิ่มขึ้นมากที่สุด

ตัวเลขของ Windows 10 ที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับที่ทาง Microsoft ประกาศว่าจะหยุดอัปเดตด้านความปลอดภัยให้กับ Windows 7 ในเดือนมกราคม 2020 ทำให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ย้ายไปใช้ Windows 10 และถ้ายังเติบโตเรื่อยๆ แบบนี้ ในช่วงต้นปีหน้า ก็น่าจะมียอดถึง 1,000 ล้านชิ้นตามที่เคยตั้งเป้าไว้

Image result for Microsoft ประกาศ มีผู้ใช้ Windows 10 ในอุปกรณ์ว่า 900 ล้านชิ้น

Review – HP 15s โน้ตบุ๊ค Core i Gen 10 + RAM 4/8GB + SSD 256/512GB + Windows

Review – HP 15s โน้ตบุ๊ค Core i Gen 10 + RAM 4/8GB + SSD 256/512GB + Windows  HP พร้อมขายก่อนใคร ด้วยการนำเสนอโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Inel Core i Gen 10 อย่าง HP 15s โน้ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ดีไซน์บางเบาออกแบบมาใหม่ ดูสวยงามไม่แพ้รุ่นพี่ตัว Pavilion และเน้นในเรื่องของความคุ้มค่า ราคาไม่แพง เป็นหลัก และที่สำคัญมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 1.69 กิโลกรัม และบางเพียง 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เหมาะกับสายการทำงานหรือบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟแบบชิคๆ คูลๆ ได้ความฟรูหราโดดเด่นไม่น้อยหน้าใครในราคาเบาๆ ด้วย

โดย HP 15s  ปี 2019 รุ่นนี้มีความโดดเด่นสุดๆ เพราะเป็นรุ่นแรกของ HP ที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 (Ice Lake) ที่ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ 10 นาโนเมตร ที่เล็กลงและดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ ซึ่งในตลาดตอนนี้มีให้เลือกทั้ง Core i3-1005G1 / Core i5-1035G1 พร้อมการ์ดจอออนชิปตัวใหม่ ที่สำคัญยังมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีด้วย RAM 4GB / 8GB และ SSD ความจุ 256GB + Optane 16GB / SSD 512GB อีกด้วย สนนราคาเพียง 14,490 / 17,990 บาท ได้ Windows 10 พร้อมประกัน 2 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ในชื่อรุ่นเต็มๆ ของ HP 15s จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ รุ่นที่ได้รับมารีวิวเป็น HP 15s-fq1012tu มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับกลางอย่าง Intel Core i5-1035G1 (Ice Lake) ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.0 – 3.6GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 15Wattโดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics G1 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนใส่ฮาร์ดดิสก์ให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB พร้อม Ram ขนาด 8GB DDR4 ราคา 17,990 บาท

และอีกรุ่นคือ HP 15s-fq1001tu มาพร้อมสเปกชิปประมวลผลรุ่นเล็กอย่าง Intel Core i3-1005G1 (Ice Lake) ทำงานแบบ 2 Core / 4 Thread ความเร็ว 1.2 – 3.4GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 15Watt โดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics G1 ส่วนใส่ฮาร์ดดิสก์ให้มาแบบ SSD M.2 NVMe ที่ 256GB + Optane 16GB พร้อม Ram ขนาด 4GB DDR4 ในราคาที่ถูกกว่าที่ 14,490 บาท

ได้หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้าน พาเนล TN คุณภาพดี ความคมชัดสูง มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว ทางด้านพอร์ตที่ติดตั้งมีมาให้จะใช้ถือว่าครบครันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม, LAN และรูหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ ซึ่งแน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac (2×2) กับ Bluetooth 4.2 และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.69 กิโลกรัม พร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ตามมาตรฐานของ HP ที่ทุกคนไว้ใจได้

  • i3-1005G1 / UHD G1/ RAM 4GB / SSD 256GB + Optane 16GB/ Windows 10 ราคา 14,490 บาท
  • i5-1035G1 / UHD G1/ RAM 8GB / SSD 512GB / Windows 10 ราคา 17,990 บาท

ไมโครซอฟท์ประกาศตัวเลขอุปกรณ์ Windows 10

ไมโครซอฟท์ประกาศจำนวนอุปกรณ์ที่รัน Windows 10 ทะลุหลัก 900 ล้านชิ้น เพิ่มจาก 800 ล้านชิ้นที่ทำได้ในเดือนมีนาคม 2019 โดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถือว่าเร็วขึ้นอีกจากรอบ 700 ล้าน -> 800 ล้าน

ตัวเลขของไมโครซอฟท์นับรวมอุปกรณ์ทุกอย่างที่รัน Windows 10 ซึ่งไม่ใช่แค่พีซี แต่รวมแว่น HoloLens, กระดาน Surface Hub และ Xbox One ด้วย

ถ้าตัวเลข Windows 10 ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราน่าจะได้เห็นไมโครซอฟท์ประกาศแตะ 1,000 ล้านชิ้นในช่วงต้นปี 2020 ซึ่งตรงกับ Windows 7 หมดระยะซัพพอร์ต

ไมโครซอฟท์เคยประกาศเป้าหมายอุปกรณ์รัน Windows แตะ 1,000 ล้านชิ้นในปี 2018 แต่ทำไม่สำเร็จเพราะ Windows Phone ล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ต่อให้ไม่มีโทรศัพท์ ไมโครซอฟท์ก็ดูจะประสบความสำเร็จตามเป้าเรื่องจำนวน แม้เรื่องเวลาจะช้าไป 2 ปี