Photoscape โฟโต้สเคป : ดาวน์โหลดโปรแกรมแต่งรูปฟรี

PhotoScape โปรแกรมแต่งรูปฟรีแวร์ที่มากไปด้วยความสามารถในการใช้งาน โปรแกรมแต่งรูป PhotoScape ถือเป็นโปรแกรมฟรีแวร์ที่มาพร้อมกับเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการแต่งรูปภาพครบครันและน่าใช้งานมากเลยทีเดียว คุณสามารถใช้งานโปรแกรมจัดการตกแต่ง แก้รูปภาพภาพได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ความสามารถและเอฟเฟ็คลูกเล่นต่างๆ ให้เลือกใช้งานอีกมากมาย อาทิ เช่น การปรับสีภาพ การปรับแสง การปรับโหมดภาพ การใส่กรอบรูป การเรียงรูปภาพ แก้ไขรูปภาพ เพิ่มข้อความ เพิ่มตัวการ์ตูน ปรับแก้ไขตาแดง ทำสไลด์โชว์รูป และอื่นๆ อีกมากมาย

หากคุณได้ลองใช้งานโปรแกรมแต่งรูป PhotoScape แล้วจะไม่ผิดหวังเลยทีเดียว เพราะความสามารถในการตกแต่งแก้ไขรูปภาพมีมากมาย ครันมากที่สุดอีกหนึ่งโปรแกรม แถมยังมีฟีเจอร์ฟังก์ชั่นต่างๆ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการแต่งรูปโดยเฉพาะ คุณสามารถตกแต่งรูปภาพได้ตามสไตล์ที่ต้องการแบบง่ายๆ ด้วยโปรแกรม PhotoScape พร้อมทั้งยังสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้งานได้ฟรี ล่าสุดรองรับการใช้งานภาษาไทยแล้ว

ฟังก์ชั่นและความสามารถของโปรแกรม PhotoScape

  • สามารถจัดการรูปภาพ แสดงภาพ ดูรูปในโฟลเดอร์ต่างๆ รวมถึงการสร้างสไลด์
  • สามารถปรับแต่งแก้ไขรูปภาพได้ เช่น ปรับขนาด ปรับสี ปรับแสง เพิ่มกรอบรูป เพิ่มข้อความ เพิ่มรูปภาพตัวการ์ตูน ลบตาแดงและอื่นๆ อีกมากมาย
  • สามารถวาดรูป รีทัชแก้ไขรูปภาพ ตกแต่งภาพ ด้วยเครื่องมือ paint brush, clone stamp, effect brush
  • สามารถรวมรูปภาพหลายๆ รวมให้มาอยู่ในรูปเดียวได้
  • สามารถจัดรูปภาพ หมุนรูป ให้อยู่ในแนวตั้งหรือแนวนอนได้
  • สามารถทำภาพเคลื่อนไหวอะนิเมชั่นต่างๆ โดยการรวมภาพ
  • สามารถสั่งพิมพ์: สามารถพิมพ์ภาพ ปริ๊นภาพ
  • สามารถแคบภาพจับหน้าจอ เซฟภาพบันทึกหน้าจอ
  • สามารถซูมปรับขนาดภาพ ค้นหาและเลือกสี
  • สามารถแปลงไฟล์รูปภาพ เปลี่ยนชื่อไฟล์
  • สามารถเปลี่ยนนามสกุลภาพ เช่น จาก PNG เป็น JPG
  • สามารถทำรูปภาพเรียง ทำกราฟ ทำปฏิทินต่างๆ
  • สามารถค้นหาใบหน้าคล้ายกันได้
  • รองรับการใช้งานภาษาไทย
  • แจกใช้งานฟรี 100%

แนะนำ 6 โปรแกรมดี โปรแกรมฟรี ที่ควรติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์

ก่อนหน้านี้ผู้เขียนจำได้ว่ามีบทความที่ชื่อ “เตือน 6 โปรแกรมอันตราย ที่ไม่ควรมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์” ออกมาเตือนผู้ใช้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นบทความที่มีประโยชน์อย่างมากครับ ผู้เขียนก็เลยคิดว่าน่าจะลองหา โปรแกรมดี และเป็นโปรแกรมฟรีสัก 6 โปรแกรมขึ้นมา เพื่อแนะนำให้กับคุณผู้อ่านที่มักจะประสบปัญหากับโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ ไวรัส มัลแวร์ รวมไปถึงที่อันตรายสุดในตอนนี้ก็คือ Ransomware หรือโปรแกรมเรียกค่าไถ่ ซึ่งโปรแกรมทั้ง 6 ที่ผู้เขียนแนะนำมานี้ ก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองก็ใช้งานอยู่เป็นประจำครับ และเป็นโปรแกรมที่ผู้เขียนมักจะติดตั้งทันทีที่ลง Windows เสร็จเรียบร้อย ส่วน 6 โปรแกรมดังกล่าวจะมีอะไรบ้างก็ไปติดตามกันได้เลยครับ

[1] Sophos Home for PC เพิ่มความปลอดภัยจากไวรัส และปลอดภัยจากการท่องเว็บ
Sophos-Home

สิ่งที่ดีที่สุดหลังจากติดตั้ง Windows ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันไหนก็ตามโปรแกรมที่ควรจะติดตั้งทันทีก็คือโปรแกรมป้องกันไวรัสครับ แม้ว่าตัว Windows รุ่นใหม่ ๆ อย่างเช่น 8 และ 10 จะมาพร้อมกับโปรแกรมป้องกันไวรัสในตัวแล้วก็ตาม แต่ผู้เขียนคิดว่าฟังก์ชันการทำงานที่มาพร้อม Windows นั้นก็ยังมีไม่มากพอสำหรับการใช้งานครับ (ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนด้วย) อย่างผู้เขียนเองจำเป็นต้องเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อหาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาเขียนลงคอลัมน์ใน QuickPC ดังนั้นการตระเวนไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยอาศัยเพียงแค่ Windows Defender ก็อาจจะพลาดท่าเสียทีได้ ก็เลยจะเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมที่มีความสามารถในการตรวจจับไวรัส และมีการป้องกันในการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยในตัว ซึ่งโปรแกรมป้องกันไวรัสในลักษณะนี้ก็มีหลายโปรแกรมครับ แต่ตอนนี้ผู้เขียนเองหลงรัก Sophos Home for PC มากเป็นพิเศษ คือนอกจากจะฟรีแล้ว โปรแกรมนี้ยังมีส่วนควบคุมการทำงานผ่านทางเว็บบราวเซอร์ได้อีกด้วย ในกรณีที่เรามีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง เราก็สามารถติดตามการทำงานของ Sophos ที่อยู่ในเครื่องอื่น ๆ ได้จากส่วนที่เรียกว่า Home Dashboard ครับ

[2] Malwarebyte Anti-Ransomware (Beta) ป้องกันซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่
Malwarebyte-Anti-Ransomware

Malwarebyte Anti-Ransomware (Beta) นี่เป็นโปรแกรมป้องกัน Ransomware ที่น่าสนใจมากในเวลานี้ครับแม้ว่าจะยังไม่ออกเวอร์ชันจริงออกมาก็ตาม และไม่แน่ในเหมือนกันว่าออกเวอร์ชันจริงแล้วยังคงเป็นเวอร์ชันฟรีให้เราใช้ต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าใครไม่อยากรอลุ้นว่าเมื่อไหร่จะออกเวอร์ชันจริง ก็สามารถเลือกใช้อีกโปรแกรมหนึ่งก็ได้ครับ นั่นก็คือ Bitdefender AntiRansomware (BDAntiRansomware) ซึ่งเป็นฟรีแวร์เช่นกัน และก็ออกเวอร์ชัน 1.0 มาแล้วไม่ได้เป็นแค่ Beta เหมือน Malwarebyte ส่วนคุณผู้อ่านจะเลือกติดตั้งตัวใด เราก็คิดว่าดีทั้งนั้นครับเพราะว่ากันไว้ดีกว่าแก้

[3] Bitdefender Adware Removal Tools for PC กำจัดทูลบาร์ที่มาพร้อมโฆษณาแฝง
Bitdefender-Adware

นี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจาก Bitdefender ครับ โปรแกรมนี้จะช่วยในการกำจัดพวก Adware ต่าง ที่ซ่อนมากับโปรแกรมที่เราติดตั้งไปตามปกติ หรือเกิดจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วเราไปตอบ OK บนหน้าจอที่ไม่ทันได้อ่าน ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ว่ากำลังทำงานอยู่เพลิน ๆ แล้วขึ้น OK กับ Cancel มาให้เรากด เราก็กด OK ซิครับ ซึ่งผู้เขีนนเองก็เป็นบ่อย แม้ว่าจะพยายามระวังตัวแล้วก็ตาม โปรแกรมพวกนี้บางครั้งก็ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่ว่ามันสร้างความรำคาญเสียมากกว่า แต่ก็มีบางโปรแกรมเหมือนกันที่ไม่ปลอดภัย และนอกจากนี้แล้วก็ยังมีโปรแกรมประเภท Hijack Browser คือพวกที่ชอบเปลี่ยนเว็บไซต์หลักและเครื่องมือในการค้นหาของเว็บบราวเซอร์ที่เราใช้งานอยู่ โปรแกรม Bitdefender Adware Removal Tools for PC นี้ก็จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ครับ

[4] Geek Uninstaller ถอดถอนโปรแกรมได้อย่างล้ำลึก
Geek-Uninstaller

Geek Uninstaller เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ใช้สำหรับถอดถอนโปรแกรมที่ไม่ต้อบการออกจาก Windows ที่ดีที่สุดโปรแกรมหนึ่งครับ ที่ว่าดีนั้นไม่ใช่เพราะเป็นฟรีแวร์ แต่ว่าเป็นเพราะประสิทธิภาพในการจัดการกับโปรแกรมที่เราไม่ต้องการได้อย่างหมดจด โดยที่ตัว Geek Uninstaller เองก็มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด ไม่ได้มีฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ มาวุ่นวายด้วย การใช้งานก็เรียบง่ายตรงไปตรงมา ในกรณีที่ใครเจอโปรแกรมแปลก ๆ ที่มักจะแถมมากับโปรแกรมที่เราดาวน์โหลดมาใช้งาน แต่ว่า Uninstall ออกไม่ได้ด้วยวิธีการปกติ ก็สามารถใช้ Geek Uninstaller นี้จัดการได้สบาย ๆ ครับ ส่วนใครที่ต้องการความสามารถพิเศษที่สามารถตรวจจับการติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ลงในเครื่องของเราได้อย่างละเอียดก็สามารถซื้อรุ่น Pro มาใช้งานได้ครับ แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปผู้เขียนคิดว่าเวอร์ชันที่เป็นฟรีแวร์ก็ใช้งานได้เพียงพอแล้วครับ นอกจาก Geek Uninstaller แล้ว ก็ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่นี้ได้ดีเช่นกัน อาทิ Revo Uninstaller, IObit Uninstaller เป็นต้น

[5] CCleaner ทำความสะอาดวินโดวส์และแอปพลิเคชัน
CCleaner

CCleaner ยังคงเป็นหนึ่งในโปรแกรมยูทิลิตียอดนิยมที่หลาย ๆ คนใช้งานกัน เนื่องจากความสามารถในการกำจัดไฟล์ขยะของ CCleaner นั้นทำงานได้เป็นอย่างดี โปรแกรมมีการอัปเดตบ่อยมากเพื่อให้รองรับและทันกับการปรับปรุงเวอร์ชันต่าง ๆ ของซอฟต์แวร์ด้วย โปรแกรม CCleaner เองอาจจะไม่ได้มีความสามารถในการป้องกันอันตรายใด ๆ จากมัลแวร์ทั้งหลาย แต่ ความสามารถในการลบไฟล์ขยะต่าง ๆ ของแอปพลิเคชัน และการทำความสะอาดข้อมูลการใช้งานต่าง ๆ ของเว็บบราวเซอร์ที่เราใช้งานกันอยู่เป็นประจำก็สามารถช่วยลบข้อมูลส่วนตัวของเราที่อาจจะถูกนำไปใช้โดยไม่รู้ตัวได้ โดยเฉพาะถ้าพีซีของเรามีคนอื่นมาใช้งานร่วมด้วย แม้จะไม่บ่อยก็ตาม ใน CCleaner ก็มีอีกคุณสมบัติหนึ่งที่ใช้งานได้ดีนั่นก็คือความสามารถในการปิดเปิด Plugin และ Extension ของเว็บบราวเซอร์ (อยู่ในหัวข้อ Tools/Browser Plugins) ช่วยปิดเปิดการทำงานได้ตามต้องการและง่ายดาย รองรับ IE, Firefox, Google Chrome และ Opera ส่วนใครที่มีฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วต้องการจะปล่อยขาย ก่อนขายก็แนะนำให้ใช้คุณสมบัติ Drive Wiper เพื่อลบข้อมูลต่าง ๆ ในไดร์ฟของเราออกไปก่อน เพื่อป้องกันการกู้คืนข้อมูลเพราะเราเองอาจจะลืมไปว่าเคยเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในไดร์ฟเหล่านั้นด้วย เพราะการฟอร์แมตเพียงอย่างเดียาอาจจะไม่เพียงพอครับ

[6] AOMEI Backupper Standard สำคัญต้องสำรอง
AOMEI Backupper

อีกหนี่งโปรแกรมที่ผู้เขียนคิดว่าสำคัญ แต่บอกได้เลยว่าผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจมากนักก็คือเรื่องของการสำรองข้อมูล ยิ่งทุกวันนี้เรามีความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลจากพวก Ransomware การแบ็คอัปหรือการสำรองข้อมูลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าเราจะมีโปรแกรมป้องกันแล้วก็ตาม เพราะมีความเป็นไปได้ที่เราอาจจะไปเจอกับพวก Ransomware ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ หรืออาจจะรอดจากการตรวจจับมาได้เนื่องจากเหตุผลอื่น ๆ ดังนั้นทางที่ดีเราจึงต้องหัดสำรองข้อมูลที่สำคัญ ๆ ไว้ให้เป็นนิสัย หนึ่งในโปรแกรมแบ็คอัปข้อมูลที่ใช้งานง่ายก็คือ AOMEI Backpper Standard และยังมีความสามารถในการแบ็คอัปที่หลากหลายมาก ตั้งแต่แบ็คอัประบบ แบ็คอัปเฉพาะไฟล์ แบ็คอัปเป็นพาร์ทิชัน รวมไปถึงการแบ็คอัปทั้งไดร์ฟก็สามารถทำได้ ส่วนการแบ็คอัปข้อมูลที่ดีเราก็ควรจะมีแหล่งที่เก็บอย่างน้อย ๆ สองชุด ชุดแรกอาจจะเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ภายในเครื่องเพื่อความสะดวกในการเรียกใช้ ส่วนอีกชุดก็อาจจะเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์แบบพกพา พอแบ็คอัปแล้วก็ถอดสายออกเก็บไดร์ฟไว้ในที่ปลอดภัย เพราะ Ransomware บางตัว เมื่อติดในเครื่องแล้วมันสามารถแพร่กระจายไปได้ทุกไดร์ฟ รวมไปถึงไดร์ฟบนเครือข่ายด้วย

Microsoft เปิดให้ผู้ใช้ Windows 7, 8 และ 8.1 ของแท้ อัปเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี

Microsoft เคยประกาศออกมาแล้วว่า Windows 7 จะสิ้นสุดการสนับสนุนซอฟท์แวร์หลังจากเดือนมกราคมปี 2020 เป็นต้นไป ซึ่งทาง Microsoft เองก็พยายามผลักดันให้คนหันมาใช้  Windows 10 กันมาตลอด และเคยปล่อยให้อัปเกรดฟรีจนถึงปี 2016 อีกด้วย แต่จริงๆ แล้วทุกวันนี้ผู้ใช้งาน Windows 7, 8 และ 8.1 ก็ยังสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้อยู่แบบฟรีๆ ผ่าน Media Creation Tool ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน

Windows 10 เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015 ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่หลายๆ คนยังไม่ให้การยอมรับกันนัก (อาจจะด้วยความเคยชินกับระบบเดิม หรือยังไม่แน่ใจเรื่องความเสถียร) ทำให้คนยังคงใช้ Windows 7 กันอยู่ในสัดส่วนเกินครึ่ง…แต่ทุกวันนี้บอกได้เลยว่า Windows 10 ได้รับการอัปเดตไปไกลกว่าเดิมมาก จนสามารถใช้งานได้เสถียรมากขึ้น จนสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจแล้ว เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังใช้ระบบ Windows รุ่นเก่าๆ ตั้งแต่ Windows 7 – 8.1 อยู่ ก็หันมาลองใช้ Windows 10 กันดูดีกว่าครับ (หากเพื่อนๆ ใช้ Windows 7 รุ่น Pro อยู่พอเปลี่ยนเป็น Windows 10 แล้วก็จะยังคงเป็นรุ่น Pro อยู่เหมือนเดิมครับ)

ขั้นตอนการอัปเกรดเป็น WINDOWS 10

  • ก่อนอื่นให้เข้าเว็บสำหรับดาวน์โหลด Windows 10 (คลิกที่นี่) กันก่อนนะครับ
  • กดปุ่ม Download tool now เพื่อดาวน์โหลด MediaCreationTool.exe

  • เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วเปิดโปรแกรม Media Creation Tool และให้กดยอมรับเงื่อนไขไปเรื่อยๆ
  • พอถึงหน้า What do you want to do? ให้กด Upgrade this PC now จากนั้นกดปุ่ม Next

  • ถัดมาตัว Tool จะถามว่าจะให้เรา เก็บไฟล์เดิมไว้ หรือ ล้างเครื่องใหม่หมด อันนี้อยู่ที่เราเลือกเลย
  • สุดท้ายกดปุ่ม Install ด้านล่างขวา และรอทำการติดตั้ง ซึ่งอาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมง และเครื่องจะรีสตาร์ทเองหลายรอบ ก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ (เรื่องปกติ)
  • หลังติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ก็จะต้องทำการ Activation กันก่อน วิธีก็ง่ายๆ คือให้คอมเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเอาไว้ จากนั้นกดปุ่ม Start -> Settings -> Windows Update -> Activation เพื่อเริ่มใช้งาน Digital License อัตโนมัติหรืออาจจะต้องเอา Product Key จากกล่อง Windows 7, 8 หรือ 8.1 มากรอกเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มใช้งาน Windows 10 ของแท้ได้แบบเต็มประสิทธิภาพกันแล้วครับ

อย่างไรก็ตามการอัปเกรดแบบนี้จะใช้ได้เฉพาะคนที่ Windows 7, 8 และ 8.1 ของแท้ เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวทีมงานแนะนำให้อัปเกรดเป็น Windows 10 เพราะใช้งานได้ดีกว่า รองรับอะไรใหม่ๆ ได้มากกว่า และมีการอัปเดต Patch ความปลอดภัยอยู่เรื่อยๆ อีกด้วย

หากคอมที่เพื่อนๆ ใช้เป็นรุ่นใหม่กว่าปี 2015 ก็สามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้เลย แต่ถ้าหากเก่ากว่านี้ไม่แนะนำให้อัปเกรดนะครับ เพราะอุปกรณ์บางอย่างอาจจะไม่รองรับ หรืออาจจะหาไดรเวอร์เพื่อใช้งานร่วมกันไม่ได้แล้วนั่นเองครับ

Firefox สามารถเล่นวิดีโอคลิป บนระบบ Windowsได้แล้ว

Firefox สามารถเล่นวิดีโอคลิปแบบภาพควบคู่บนระบบ Windows ได้แล้ว ส่วนสำหรับ MacOS กับ Linux มาแน่เดือนหน้า Engadget รายงานว่า Firefox เวอร์ชัน 71.0 หรือรุ่นล่าสุด มีการเพิ่มฟังก์ชันให้สามารถเล่นวิดีโอคลิปแบบ “Picture-in-Picture” สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows

การเล่นวิดีโอคลิปแบบ Picture-in-Picture คือผู้ใช้งานจะสามารถลากและพินวิดีโอคลิปจาก Youtube หรือเว็บอื่น ๆ ลงบนหน้าจอของคุณในตำแหน่งไหนก็ได้ ซึ่งวิธีใช้งานก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่โหลดหน้าเว็บเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ใช้กดปุ่มสีน้ำเงินข้างคลิป “เพื่อเล่นภาพควบคู่” เพียงเท่านี้ คุณสามารถย้ายหน้าจอวิดีโอคลิปไปไว้ตำแหน่งบนหน้าจอตรงไหนก็ได้เป็นอันเรียบร้อย

การเล่นวิดีโอแบบ Picture-in-Picture มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ชื่นชอบใช้ระบบ Multitasking เป็นประจำวัน อย่างเช่นการทำงานไป ชมวิดีโอคลิปไป เป็นต้น แม้ตอนนี้ฟังก์ชันดังกล่าวเปิดให้ใช้เฉพาะ Windows เท่านั้น แต่ Mozilla ยืนยันว่าสำหรับระบบ MacOS กับ Linux จะเพิ่มออปชันในช่วงเดือนมกราคมปี 2020

Image result for Firefox สามารถเล่นวิดีโอคลิป บนระบบ Windowsได้แล้ว

ผู้ที่ใช้งาน Windows 7,8,8.1 เดิมสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้ทันที

เมื่อ Windows 10 เปิดตัวใหม่ ๆ ทาง Microsoft ได้ประกาศให้ผู้ที่ใช้งาน Windows 7,8,8.1 เดิมสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 ได้ทันทีตั้งแต่เปิดตัวโดยให้เวลาอัปเกรดได้ฟรีภายใน 1 ปีแรก และต่อมาขยายให้ถึง ธันวาคม 2560

(หมายความว่าพ้นจากนี้ไป หากไม่เคยทำการอัปเกรด ก็จะไม่สามารถอัปเกรดได้แล้ว ถ้าจะให้ถูกต้องตามกฎหมาย คุณต้องไปซื้อลิขสิทธิ์ Windows 10 มาเท่านั้น หากไม่ได้ซื้อ จะต้องทำการ Clean Install [ติดตั้งใหม่] โดยจะเป็นสถานะเตือนให้ Activate ทั้งนี้เครื่องที่เคยอัปเกรดมาก่อนในช่วงก่อนหมดเขต ยังจะสามารถติดตั้ง Windows 10 แบบ Activate ถูกต้องได้ฟรี ๆ ไปตลอดจนกว่าเครื่องนั้นจะพัง)

แต่อย่างไรก็ตามจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ ได้ทำการทดสอบแล้วพบว่า ผู้ที่ยังไม่เคยอัปเกรดเป็น Windows 10 จาก Windows 7,8,8.1 ยังคงสามารถอัปเกรดได้ตามปกติ เพียงแค่ Microsoft ไม่ได้ขึ้นแจ้งเตือน แต่สามารถดาวน์โหลดมาอัปเกรดเองได้อยู่ โดยที่สถานะยังมีการ Activate อย่างถูกต้องด้วย

ทาง ghacks.net ได้สอบถามไปยังผู้ที่อ้างว่าเป็นพนักงาน Microsoft บน Reddit ได้ข้อสรุปว่า

  • เหตุผลหนึ่งก็คือผู้บริหารของ “Microsoft มุ่งเน้นไปที่ เป้าหมาย 1 พันล้านอุปกรณ์ ให้มาใช้งาน Windows 10”
  • เหตุผลต่อมาก็คือ ต้องการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในภาพรวม เหมือนเมื่อก่อนที่ยินยอมให้ Windows 7/8/8.1 เถื่อนสามารถอัปเกรดเป็น Windows 10 โดยมาสถานะหลังการอัปเกรดทำให้เหมือนของแท้ (ด้านการทำงานทางเทคนิคนะใช่ แต่ด้านทางกฎหมายลิขสิทธิ์ยังถือว่าเป็นของเถื่อนอยู่นะครับ)
  • Windows 7 จะยุติสนับสนุนในไม่กี่เดือนแล้ว จึงปล่อยให้อัปเกรดเป็น Windows 10 ได้ โดย Windows 10 นั้นไม่มีการยุติสนับสนุนเนื่องจากใช้วิธีออกอัปเดตใหม่เรื่อย ๆ

ดังนั้นก็สรุปได้ว่าในเมื่อทาง Microsoft ปล่อยให้อัปเกรดฟรี และ Windows 7/8/8.1 จะยุติการสนับสนุนแล้ว

  • Windows 7 ยุติการสนับสนุน 17 มกราคม 2563
  • Windows 8 ยุติการสนับสนุน 12 มกราคม 2559
  • Windows 8.1 ยุติการสนับสนุน 10 มกราคม 2566

ก็ควรอัปเกรดครับ อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือจริง ๆ ในภายหลัง เขาขยายให้แบบเงียบ ๆ แบบนี้ก็รีบคว้าโอกาสเลย

เมื่อไม่มีการสนับสนุนแล้ว หากไม่อัปเกรดท่านจะต้องแบกรับความเสี่ยงเอาเอง ทั้งด้านความปลอดภัย ข้อมูลอาจจะเสียหายจากมัลแวร์และแฮกเกอร์ผ่านทางช่องโหว่ของ Windows รุ่นเก่าซึ่งมีอยู่มาก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงมากกว่า Windows รุ่นใหม่ ๆ หลายเท่า และโปรแกรมและเกมรวมถึงบริการต่าง ๆ อาจจะใช้งานไม่ได้ในอนาคต Web Browser อาจจะเข้าใช้งานเว็บในอนาคตไม่ได้เพราะว่าก็ยุติการอัปเดตบน Windows เวอร์ชันเก่าตามไปด้วย

พบบั๊ก Whatapp ให้แฮกเกอร์ลงสปายแวร์ในมือถือเรา

ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วไปและผู้ใช้งานแอพระดับองค์กรของ WhatsApp ซึ่งโดนหมดไม่ว่าจะเป็น Google Android, Apple iOS และ Microsoft Windows

เพื่อโจมตีช่องโหว่นี้ แฮกเกอร์จำเป็นต้องมีหมายเลขโทรศัพท์ของเป้าหมายที่สมัครใช้งาน Whatapp ไว้ จากนั้นก็ส่งไฟล์ MP4 ที่ทำขึ้นเฉพาะผ่าน Whatapp ถ้าเรากดคลิ๊กลิ้งค์เปิดไฟล์วีดีโอ แฮกเกอร์จะติดตั้งสปายแวร์ที่จะขโมยข้อมูลภายในเครื่องหรือไฟล์ต่าง ๆ ภายในเครื่องได้

ในเวอร์ชั่น Whatapp ที่มีช่องโหว่คือ

  • Wahatapp ใน Android เวอร์ชั่นก่อนอัพเดทเป็น 2.19.274
  • iOS versions ก่อนอัพเดทเป็น 2.19.100
  • Enterprise Client เวอร์ชั่นก่อนอัพเดทเป็น 2.25.3
  • Windows Phone เวอร์ชั่นก่อนอัพเดทเป็น 2.18.368
  • Business for Android  เวอร์ชั่นก่อนอัพเดทเป็น 2.19.104
  • Business for iOS เวอร์ชั่นก่อนอัพเดทเป็น 2.19.100

คำแนะนำคือ หากใครที่ใช้ Whatapp ช่วงนี้ใครส่งไฟล์วีดีโอมาให้ ให้หลีกเลี่ยงการคลิ๊กลิ้งค์ไปก่อนชั่วคราวจนกว่าจะมีการแก้ไขบักนี้ (แต่เนื้อหาข่าวบอกว่า Whatapp แอบแก้ไขแบบเงียบ ๆ แล้ว แต่ไม่ยอมเปิดเผย)

Image result for บั๊ก Whatsapp

ปรับ Start menu ของ Windows 10 ให้เปิดเร็วขึ้น

วันนี้มีเคล็ดลับการปรับแต่งเมนูเริ่ม (Start menu) ของ Windows 10 ให้เปิดหรือทำงานเร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานบนเครื่องพีซีหรือแท็บเล็ตที่ใช้ซีพียูไม่ค่อยแรงนักอย่างเช่น Intel Atom เป็นต้น

สำหรับเคล็ดลับที่นำมาฝากวันนี้เป็นวิธีง่ายๆ คือการปิดวิชวลเอฟเฟคท์ (Visual Effects) ภาพเคลื่อนไหวบนเมนูเริ่ม ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

1. ให้คุณทำการเปิดหน้า System Properties

  • กดปุ่ม Windows + Break จากนั้นคลิก Advanced system settings บนหน้า System
  • คลิกขวาบนเมนูเริ่ม หรือกดปุ่ม Windows + X จากนั้นคลิก System แล้วคลิก Advanced System Settings บนหน้า System
  • กดปุ่ม Windows + R ป้อน sysdm.cpl ในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK จากนั้นคลิกแท็บ Advanced บนหน้า System Properties

2. ถึงตอนนี้คุณจะมาอยู่ที่หน้า System Properties จากนั้นให้คุณคลิก Settings ซึ่งอยู่ภายใต้หัวข้อ Performance

 

3. ให้คุณทำการยกเลิกการติ๊กเลือกหัวข้อ “Animate windows when minimizing and maximizing” เพื่อปิดการทำงาน ( Disable) วิชวลเอฟเฟคท์ภาพเคลื่อนไหว

หลังจากทำตามขั้นตอนด้านบนเสร็จแล้ว เมื่อคุณทำการเปิดเมนูเริ่มมันจะปรากฏขึ้นแบบทันที การปิดวิชวลเอฟเฟคท์นี่ไม่มีผลกับไทล์ที่มีชีวิต (Live Tiles) นั้นหมายความว่ามันจะยังคงแสดงเคลื่อนไหวตามปกติ

Dev จัดหนัก จับ Windows 10 ลงในเครื่องคิดเลขได้แล้ว

การจับ Windows ไปลงในอุปกรณ์ต่าง ๆ นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่มีคนลองกันอยู่เสมอ ล่าสุดก็เป็นคิวของเครื่องคิดเลขบ้างแล้วครับ โดยมี developer สามารถนำ Windows 10 ไปบูทบนเครื่องคิดเลขได้แล้ว

โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อบัญชีว่า @imbushuo ได้โพสต์ภาพและคลิปที่ตนเองทดลองนำ Windows 10 (น่าจะเป็นรุ่นสำหรับชิปตระกูล ARM) มาทำงานบนเครื่องคิดเลข HP Prime Graphing Calculator ซึ่งในตอนนี้ก็สามารถเข้าหน้าบูทได้แล้ว จากที่ในทีแรกติดปัญหาเนื่องจากความละเอียดหน้าจอของตัวเครื่องต่ำเกินไป (320 x 240) โดยสามารถติดตามต่อได้จากในบัญชีทวิตเตอร์ของเจ้าตัว ที่อยู่ตรงที่มาของข่าวได้เลย

สเปคคร่าว ๆ ของเครื่องคิดเลข HP Prime Graphing

  • ชิปประมวลผลแบบ ARM ความเร็ว 400 MHz
  • หน้าจอสัมผัสความละเอียด 320 x 240 16 บิท
  • แรม 32 MB
  • รอม 256 MB
  • รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB
  • แบตเตอรี่ li-ion
  • น้ำหนัก 228 กรัม
  • ราคาในไทยประมาณ 8,000 กว่าบาท

Adobe ขยายการใช้งานแอปวาดภาพ Fresco ไปยัง Windows แล้ว

Adobe ได้เปิดตัวแอปวาดและระบายสีภาพ Fresco สำหรับ iPad ไปเมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Adobe ได้ประกาศเปิดตัวแอป Fresco เวอร์ชัน Windows ภายในงานประชุม Adobe Max 2019 โดยมีค่าบริการ 9.99 เหรียญต่อเดือน (ประมาณ 300 บาทต่อเดือน) แต่สำหรับผู้ที่สมัครใช้บริการ Adobe Creative Cloud แล้วนั้น จะใช้งานได้ฟรี

Fresco เวอร์ชัน Windows จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างง่ายดาย (รูปแบบการใช้งานเหมือนกับบน iPad) โดยผู้ใช้สามารถบันทึกผลงานเป็นไฟล์ PSD สำหรับใช้ใน Photoshop ต่อไปได้อย่างสะดวกสบาย

Adobe Fresco

ทาง Adobe ได้กล่าวว่า Fresco เวอร์ชัน Windows จะใช้งานบนอุปกรณ์ที่รองรับปากกา Stylus ได้ เช่น Microsoft Surface Pro หรือ Wacom MobileStudio Pro เป็นต้น และจะขยายการรองสำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป

Windows 10X สามารถรองรับแล็ปท็อปเพิ่มเติมจากอุปกรณ์ 2 หน้าจอพับเก็บได้

2 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมาในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Microsoft บริษัทได้เปิดตัว Surface Neo อุปกรณ์ 2 หน้าจอที่สามารถพับเก็บได้ ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10X เป็นรุ่นใหม่ของ Windows 10 ที่ออกแบบมารองรับการใช้งานโดยเฉพาะทั้งใน Surface Neo่, Lenovo ThinkFold X1 และอุปกรณ์ของค่ายอื่น ๆ

25 ตุลาคม ผู้ใช้งาน Twitter ชื่อบัญชี WalkingCat ได้ค้นพบและทวีตเผยแพร่เอกสารการออกแบบภายใน ซึ่งเป็นเบื้องหลังของระบบปฏิบัติการ Windows 10X เป็นหลักฐานยืนยันว่า Windows 10X กำลังได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและสามารถรองรับกับแล็ปท็อปนอกเหนือจากอุปกรณ์ 2 หน้าจอพับเก็บได้

ภาพแรกกล่าวถึงหน้าจอ Launcher ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นและกลับไปทำงานที่ทำไว้ล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว โดยมาพร้อมกับช่องการค้นหาเพื่อใช้ค้นหาเว็บ แอปที่พร้อมใช้งาน และไฟล์ข้อมูลที่มีภายในอุปกรณ์ ส่วนตารางไอคอนตรงกลางจอภาพจะแสดงแอปที่ได้ติดตั้งไว้และเว็บไซต์ ด้านล่างถัดลงมาจะแสดงรายการของแอป ไฟล์ และเว็บไซต์ที่เปิดใช้บ่อยและใช้งานครั้งล่าสุด ด้านล่างสุดคือ Start Menu จะประกอบด้วยแอปภายในอุปกรณ์และเว็บแอปที่มีการอัปเดตอัตโนมัติ

Windows 10X Launcher

เมื่อผู้ใช้เปิดอุปกรณ์เข้าสู่ Windows 10X จะมีหน้าจอพิสูจน์ตัวตนที่ได้ปรับปรุงประสบการณ์ใหม่ด้วยระบบการจดจำใบหน้าที่เรียกว่า Windows Hello หลังจากสแกนใบหน้ายืนยันตัวตนหรือจะกดรหัส PIN เมื่อผ่านแล้วก็จะเข้าสู่หน้าจอเดสก์ท็อป ซึ่งแตกต่างจาก Windows 10 แบบเดิมที่ต้องเลื่อนหน้าจอล็อกการใช้งานก่อนเข้าสู่หน้าจอการตรวจสอบสิทธิ์

Windows Hello

ระบบปฏิบัติการที่มีการไล่สีพื้นหลังได้อย่างกลมกลืน และระบบการโต้ตอบเพื่อให้ผู้ใช้งานมุ่งเน้นอยู่กับงานที่ทำอยู่ สรุปง่าย ๆ ว่าเน้นพื้นหลังว่างเปล่าและไอคอนด้านล่างนิดหน่อย ไม่ต้องมีไอคอนหรือเมนูต่าง ๆ มาจัดวางให้ดูเกะกะรบกวนการทำงาน

Blend Background

การเข้าใช่งาน การแจ้งเตือน การค้นหา และอื่น ๆ ที่มีความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ เอกสารยังกล่าวถึงการกำหนดค่าที่รวดเร็วและรองรับการปรับแต่งที่เป็นดีฟอลต์ เช่น WiFi Cell-Data ภาษา บลูทูธ โหมดการโดยสารบินครื่องบิน ล็อกการหมุน ตำแหน่งที่ตั้ง การประหยัดแบตเตอรี ฮอตสปอต และอื่น ๆ

การเข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ