Microsoft ปล่อย Windows 10 May V1930 ให้อัพเดทแล้ว

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 10 v1903 มาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ล่าสุดทาง Microsoft ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ทำการโหลดอัพเดท 1903 กันอย่างเป็นทางการ โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามานั้นจะเป็นการแก้ไขในเรื่องของข้อผิดพลาดต่างๆ พร้อมกับมีการเพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ออกมาให้ได้ใช้กัน

 

 

อัพเดท Windows 10 May V.1903 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ดังต่อไปนี้

  • เพิ่มความสามารถในการให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนทำการอัพเดทระบบปฎิบัติการต่างๆ โดยอัตโนมัติได้สูงสุดถึง 35 วัน
  • มาพร้อมกับฟีเจอร์ “reserved storage”
  • เปิดให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Windows Sandbox ได้ โดยจะเหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมโปรแกรมต่างๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยกับการใช้งานของผู้ใช้ได้เอง
  • มาพร้อมกับ Start menu ที่มีการปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
  • ผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Cortana ถูกแยกเป็นคนละส่วนกับฟีเจอร์ Search ไปเรียบร้อย
  • Search box ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยสามารถใช้งานในการค้นหาได้ง่ายขึ้นมากกว่าเดิม
  • รองรับการซิงค์หน้าจอของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฎิบัติการ Android รวมไปถึงสามารถนำการแจ้งเตือนต่างๆ บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฎิบัติการ Android ให้ทำการแจ้งเตือนบน Windows 10 ได้ด้วย

 

วิธีทำ Windows 10 ให้เหมือนใหม่

เรื่องปกติของผู้ใช้ Windows

การใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Windows หรือ macOS ก็จะพบปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นคือ คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงไปมาก ซึ่งปัญหาเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโปรแกรมที่มีการติดตั้งเพิ่มเติม เรื่องของพื้นที่ที่น้อยเกินไป หรือแม้กระทั่งเรื่องของไวรัส สปายแวร์ ก็ทำให้คอมฯ ทำงานช้าลงได้

วิธีทำ Windows 10 ให้เหมือนใหม่

แก้ปัญหา Windows ทำงานช้าลง

วิธีแก้ไขปัญหาของ Windows ที่ทำงานช้า ก็คงต้องตรวจสอบโดยละเอียดว่า มาจากสาเหตุใด ซึ่งต้องใช้ผู้ชำนาญการในระดับหนึ่ง ถึงจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด แต่ถ้าจะให้ดี เราสามารถแก้ไขได้โดยการ ลง Windows ใหม่ ซึ่งต้องใช้ผู้ที่ชำนาญเช่นเดียวกัน แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ง่าย นั่นคือ การ reset Windows

Reset Windows คืออะไร

การ Reset Windows คือการลบโปรแกรมต่างๆ ที่มีการติดตั้งเข้ามาใหม่ รวมถึงการลบไฟล์ข้อมูลที่เพิ่มเติมเข้ามา (สามารถเลือกจะลบหรือไม่ก็ได้) ซึ่งผลก็คือ ทำให้คอมพิวเตอร์ของเรา เหมือนใหม่ เหมือนตอนที่เพิ่งเปิดเครื่องคอมฯ และติดตั้ง Windows ใหม่ๆ  ใครสนใจกวิธีนี้ก็ลองดูรายละเอียดวิธีการทำ reset Windows ได้เลยครับ

วิธี Reset Windows

  1. เปิดคอมพิวเตอร์ เข้า Windows ปกติ
  2. คลิกเมนู Start
  3. เลือกคำสั่ง Setting (รูปฟันเฟือง)
  4. เลือกหัวข้อ Update & Security
  5. เลือกเมนู Recovery
  6. เลือกหัวข้อ Reset this PC โดยการคลิกปุ่ม Get started
  7. จากนั้น จะพบหน้าต่างและมีทางเลือก 2 ข้อคือ
    1. Keep my files (เก็บไฟล์งาน เก่าๆ ไว้)
    2. Remove everything (ลบทุกอย่าง ยกเว้น Windows)
  8. เลือกทางเลือกข้างต้นที่ต้องการ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้มีการสำรองข้อมูล แนะนำเลือกข้อแรก
  9. จากนั้น จะพบหน้าต่างอีกหน้าต่าง โดยมีการเลือก 2 ข้ออีก คือ
    1. Just remove my files
    2. Remove files and clean the drive
  10. หลังจากเลือกได้แล้ว จะพบหน้าต่างให้ ยืนยัน Reset อีกครั้ง
  11. จากนั้นก็ลองจนกระทั่ง Windows ทำการ reset จนเสร็จ

จาการทดสอบจริง พบว่า ใช้เวลานานพอสมควร ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับขนาดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ และข้อมูลที่มีในเครื่องทั้งหมด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ค่อนข้างคุ้มค่ามาก เพราะเหมือนได้คอมฯ ใหม่ แต่ก็เสียเวลาติตดั้งโปรแกรมใหม่ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะไม่ต้องเสียเงินให้กับช่าง อย่างน้อยก็สัก 300-500 บาท

ทิปแก้ปัญหาเปลี่ยนภาษา Windows 10

Windows 10 เปลี่ยนภาษาเพี้ยน

มีใครใช้งาน Windows 10 แล้วมีปัญหาแบบนี้บ้าง เวลาจะเปลี่ยนภาษาจากอังกฤษ มาเป็นภาษาไทย หรือสลับกัน ปกติพอกดปุ่มเปลี่ยนภาษาหนึ่งครั้ง ภาษาจะเปลี่ยนสลับไปมา ไทยกับอังกฤษ ไม่ทราบว่าอะไร วันดีคืนดี ก็มีภาษาอังกฤษ ซ้อนขึ้นมา 2 อัน ทำให้เวลาจะเปลี่ยนภาษาเกิดความยุ่งยากพอสมควร 

switch-input-language

วิธีแก้ไขการเปลี่ยนภาษาบน Windows 10

วิธีแก้ไขการเปลี่ยนภาษาบน Windows 10

  1. กดปุ่ม Windows ค้างตามด้วยกปุ่ม S  หรือ Windows + S
  2. พิมพ์คำว่า “Region & Language Settings”
  3. คลิกตัวเลือกด้านขวามือ “Administrative languages settings”
  4. จะพบหน้าต่าง Region ให้ดูที่แท็บ Administrative
  5. คลิกปุ่ม Copy settings
  6. ที่ด้านล่าง ให้คลิกเลือกถูกทั้งสองหัวข้อ
    1. Welcome screen and system accounts
    2. New user accounts
  7. คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยัน
  8. คลิกปุ่ม OK อีกครั้ง เพื่อกลับมาหน้าปกติ
  9. ทดสอบใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ถ้ายังมีปัญหา แนะนำให้ลอง Restart Windows สักครั้ง และทดสอบการเปลี่ยนภาษาอีกครั้ง ส่วนตัวก็เคยเกิดปัญหานี้ และสามารถแก้ไขได้ตามคำแนะนำข้างต้น